ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้แบคทีเรีย ไวรัส อันตรายเข้ามาทำร้ายร่างกาย
ระบบภูมิคุ้มกันประกอบด้วยเซลล์เนื้อเยื่อและอวัยวะพิเศษร่วมกันทำหน้าที่ปกป้องร่างกาย
หากภูมิตกจะมีอาการเหล่านี้ 1. เป็นหวัดบ่อย น้ำมูกไหลเป็นประจำ 2. ท้องไส้ไม่ดี ท้องผูก ท้องเสีย 3. เหนื่อยง่ายแม้นอนเยอะ 4. ผิวเป็นผื่น ผิวอักเสบ 5. แผลหายช้ากว่าปกติ หากมีอาการควรทานของมีประโยชน์, พักผ่อนให้เพียงพอ, ออกกำลังกาย
ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของประชาชนได้อย่างเต็มที่
ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี นวัตกรรมที่ทันสมัย
หลักการพัฒนาของ Smart City มี 7 ด้าน จุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการจัดการเมืองและชุมชน และการตอบสนองแบบทันท่วงที
1. Smart Environment สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
2. Smart Economy เศรษฐกิจอัจฉริยะ ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจและบริหารจัดการ
3. Smart Energy พลังงานอัจฉริยะ เมืองที่มีการบริหารจัดการด้านพลังงานได้มั่นคง
4. Smart Governance การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ มุ่งเน้น ความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมโดยใช้เทคโนโลยีประยุกต์
5. Smart Living การดำรงชีวิตอัจฉริยะ เมืองที่มีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก
6. Smart Mobility การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ การบริหารที่มุ่งเน้นพัฒนาระบบขนส่งและการสัญจรที่หลากหลาย
7. Smart People พลเมืองอัจฉริยะ เมืองที่มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และสิ่งแวดล้อม
เมืองอัจฉริยะ คือ การผสานรวมวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการพัฒนาเมืองใหญ่
Smart Pole เสาอัจฉริยะ ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยเหมาะกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันพร้อมคุณสมบัติหลากหลาย ด้วยระบบกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต ระบบตรวจสอบสภาวะสิ่งแวดล้อม กล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกเหตุการณ์โดยรอบตรวจสอบความปลอดภัยเพื่อประชาชน
Smart Pole พร้อมเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเมืองให้เป็น Smart City
เสาไฟอัจฉริยะสามารถ Custom มัลติฟังก์ชันให้ตอบโจทย์เมืองที่สภาพแวดล้อมแตกต่างกันได้ พร้อมยกระดับการก้าวสู่ยุค "เมืองอัจฉริยะ" Smart City
ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน
ช่วยในการควบคุมแสงสว่างของไฟถนน
ปรับแสงได้ตามสภาวะแวดล้อม
ระบบ WIFI สาธารณะ
ระบบเซนเซอร์ตรวจสอบสภาวะทางอากาศ
ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และทำให้เมืองปลอดภัยมากขึ้น.
เมื่อเข้าสู่วัย 40+ หรือช่วงหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะต่ำลง ทำให้เกิดอาการเหล่านี้
- ผิวหนังเหี่ยวแห้ง ความยืดหยุ่นน้อยลง - เป็นแผล หรือกระได้ง่าย - ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากขึ้น - ร้อนวูบวาบ นอนหลับยาก ส่งผลให้ใต้ตาคล่ำ
หากเราดูแลตัวเอง บำรุงผิวพรรณ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ริ้วรอยและความแก่ก็ไม่ต้องกลัว!
โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ ร่วมกับ Touch Good Health และ Eat Well Concept นำนวัตกรรมอัจฉริยะติดตามพฤติกรรมการบริโภคและออกกำลังกายให้คนไทยสุขภาพดี
ในโครงการ "Let's get healthy together"
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 Touch Good Health ได้เข้าร่วมประชุมกับ รพ.กรุงเทพสิริโรจน์ ภายใต้หัวข้อ Metabolic Syndrome ภายในงานได้รับเกียรติจากนายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ ฮาวรังษี รองประธานคณะผู้บริหารโรงพยาบาลในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) กลุ่ม 6 และนายแพทย์พิริยะ อธิสุข รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย
Touch Good Health ร่วมกับบริษัท Eat Well Concept (ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน SAKID) ร่วมรณรงค์โครงการ ด้วยการนำนวัตกรรมช่วยเสริมสร้างให้บุคลากรโรงพยาบาลเข้าสู่การมีภาวะโภชนาการที่ดีและสุขภาพอนามัยที่แข็งแรง ลดโรค ลดปัจจัยการนำไปสู่ภาวะระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานผิดปกติ (Metabolic Syndrome)
ชาวออฟฟิศทุกท่านต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเร่งรีบตลอดเวลา! ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย กินอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพส่งผลให้มีอาการต่าง ๆ ได้มาระวัง 5 โรคนิยมที่คนทำงานมักเจอกันดีกว่า
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อีกหนึ่งโรคยอดฮิตของคนวัยทำงาน สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คนเกิดโรคนี้คือ เมื่อปวดปัสสาวะแล้วไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำน้อย
2. โรคไมเกรน ที่ปวดหัวจากภาวะเครียด อดนอน การขาดการพักผ่อนหรือทำงานมากเกินไป
3. โรคเครียดลงกระเพาะ ส่วนมากเกิดจากความเครียด เมื่อมีอาการเครียด ระบบประสาทอัตโนมัติจะกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ จนเกิดการระคายเคือง ส่งผลให้เกิดโรคกระเพาะอาหารได้
4. โรคกรดไหลย้อน ถือเป็นอีกโรคที่ไม่ควรมองข้ามด้วยการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบทำงานการกินอาหารต้องรีบกินเช่นกัน ถือเป็นพฤติกรรมที่ส่อให้เกิดโรคกรดไหลย้อน
5. โรคความดันโลหิตสูง คนวัยทำงานส่วนใหญ่มักเผชิญกับความกดดันอยู่บ่อยครั้งจึงทำให้ความดันโลหิตสูงได้ โรคนี้ถือเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวายอีกด้วย
เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน พนักงานออฟฟิศหลายท่านจำเป็นต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อยู่เป็นเวลานาน ไม่ได้ลุกขึ้นยืนไปไหน จนทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการตึง ก่อให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบได้ สถิติจากกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า “คนวัยทำงานร้อยละ 60 มีภาวะโรคออฟฟิศซินโดรม”
วิธีรักษาออฟฟิศซินโดรม
1. ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น การปรับตำแหน่งคอมพิวเตอร์หรืออิริยาบถในการนั่งทำงานเปลี่ยนท่านั่งให้อยู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง
2. การทำกายภาพบำบัด เพื่อลดอาการตึงและเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ
3. การออกกำลังกาย เช่น คาร์ดิโอ เน้นการวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ซึ่งช่วยทำให้การหมุนเวียนโลหิตมีประสิทธิภาพ
ตอนทำงานปรับเปลี่ยนอิริยาบถกันบ้างนะ เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
touch care
Health Care เทคโนโลยีตรวจสุขภาพ สะดวก ง่าย เช็คได้ทุกที่ทุกเวลา
นวัตกรรมสุขภาพที่พร้อมให้คุณตรวจร่างกายได้ทุกวันเสมือนมีหมอใกล้ตัว
เทคโนโลยีการตรวจสุขภาพได้เข้ามามีบทบาทในการการเช็คร่างกายเบื้องต้น เพื่อให้คุณสามารถรับรู้ถึงสถานการณ์ทางสุขภาพที่เป็นอยู่ได้ก่อนใคร และยังช่วยให้คุณลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้เร็วขึ้นอีกด้วย
เครื่องตรวจวัดความดันโลหิต รุ่น TD-3140: ตัวช่วยวัดความดันและชีพจร ที่จะแสดงการเต้นผิดปกติดของหัวใจ ทำให้คุณเช็คความผิดปกติได้ก่อนใคร
เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย ตัวช่วยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายระบบอินฟราเรด แสดงค่าปัจจุบันและก่อนหน้า สามารถปรับโหมดหน้าผาก หู และ วัตถุ ช่วยให้คุณจัดการระดับอุณหภูมิของตัวเองได้ก่อนใคร
เครื่องวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด รุ่น TD-8255: ตัวช่วยวัดประสิทธิภาพการทำงานของปอด ออกซิเจนในเลือดยิ่งเยอะ ประสิทธิภาพปอดยิ่งดี
การกินอาหารที่มีประโยขน์และวิตามินเสริมเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เรามีภูมิต้านทานร่างกายที่แข็งแรง
โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเลือกกินวิตามินซี เพื่อช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน, วิตามินบี ช่วยเรื่องสมองและความจำ และวิตามินอี เพื่อผิวพรรณที่ดี ฯลฯ
แต่มีวิตามินอีกหนึ่งชนิดที่หลาย ๆ คนมักจะลืมนั่นก็คือ #วิตามินดี จากผลการวิจัยที่ได้ตีพิมพ์ใน Bangkok Medical Journal ปี 2015 พบว่า...
พนักงานออฟฟิศ 36.5% หรือทุก 1 ใน 3 คนของพนักงานออฟฟิศ ขาดวิตามินดี เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในห้องแอร์ หรือแม้แต่ตอนออกแดดก็มักจะใส่เสื้อแขนยาวเพื่อกันแดด
Bangkok Medical Journal
นอกจากนี้คนบางกลุ่มยังมีความเสี่ยงขาดวิตามินดีมากกว่าคนทั่วไป เช่น คนที่มีผิวสีเข้ม (Dark - Colored Skin) และคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน (Obese Patients) เป็นต้น
AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ตัวช่วยการดูแลด้านสุขภาพในแต่ละช่วงวัย คำคุ้นชินที่หลาย ๆ คนมักจะได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ในยุคดิจิทัลแบบนี้
เพราะ AI ได้เข้ามามีบทบาทชีวิตประจำวัน
รวมถึงการทำงาน และการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ อย่างมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ #ด้านการแพทย์ ที่นำ AI เข้ามาช่วยในกระบวนต่าง ๆ
ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลสุขภาพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เปลี่ยนจากการวินิจฉัยโดยแพทย์ ไปเป็นการวินิจฉัยด้วยข้อมูลที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ช่วยเปลี่ยนแปลงการค้นคว้าและพัฒนายาในอุตสาหกรรมยา
ซึ่งจากการคาดการณ์ในปี พ.ศ. 2565 จะมีการนำ AI มาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมด้านการแพทย์ เพื่อรับมือกับการจัดการด้านสุขภาพของประชากรในยุคดิจิทัล และสามารถตอบคำเฉพาะผู้ป่วยได้
การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน ทุกคนควรตระหนักถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์และหาทางป้องกันเพื่อปกป้องตนเองและองค์กร